Oxygen เป็นการที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตทั้งพืช และสัตว์รวมถึงมนุษย์ด้วยเช่นกัน ถ้าร่างกายของเรานั้นขาดออกซิเจนเพียงไม่กี่วินาทีจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ออกซิเจนเป็นธาตุสัญลักษณ์นั่นก็ คือ O มีเลขอะตอมเท่ากับ 8 มีความหนาแน่นถึง1.43 กรัม/ลิตร หรือว่าหนักกว่าอากาศเพียงแค่เล็กน้อย เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมีปริมาณเป็นอันดับ 2 ในส่วนประกอบของบรรยากาศโลก เราหายใจจะมีออกซิเจนประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์ ต่อมาจากก๊าซไนโตรเจนที่มีอยู่ประมาณ 78 เปอร์เซ็นต์ ออกซิเจนจะอยู่ในอากาศของผมอยู่ตรงกับแร่ธาตุต่าง ๆ
อีกด้วย เช่น น้ำ แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ ในสภาวะปกติของออกซิเจนแล้วสถานะของก๊าซไม่มีสีไม่มีกลิ่น และก็ไม่มีรสชาติอีกด้วย ออกซิเจนที่อยู่ในอากาศเกิดจากกระบวนการสังเคราะห์แสง และพืชร่างกายของเราจะได้รับก๊าซออกซิเจน ในกระบวนการต่าง ๆ ภายในร่างกาย รวมถึงกระบวนการอลิซึมของเซลล์ อย่างเช่น กระบวนการแปลอาหารให้เป็นพลังงาน รวมถึงกระบวนการรักษาเซลล์การสังเคราะห์เอนไซม์ หรือว่า วิตามินซีในร่างกาย ออกซิเจนจะเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเข้าสู่ปอด เมื่อออกซิเจนเข้าสู่ปอดแล้วจะเกิดการแลกเปลี่ยนก๊าซ เพื่อให้ก๊าซออกซิเจนเข้าไปจับกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง Oxygen และเดินทางเข้าสู่หัวใจจากนั้นหัวใจจะส่งต่อเม็ดเลือดแดงอย่างเต็มที่ด้วยออกซิเจนนี้จะส่งไปยังอวัยวะต่าง ๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปเป็นตัวช่วยในกระบวนการเมตาบอริซึม ทั้งยังรักษาให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายมีชีวิตอยู่ต่อไป เช่น เซลล์สมอง เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ตับ

ความสำคัญของ Oxygen
Oxygen ยังเป็นตัวการสำคัญในการกำจัดของเสียออกจากร่างกายถ้าร่างกายของเราเกิดภาวะขาดออกซิเจนแล้ว หรือได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจะทำให้เซลล์นั้นส่งผลให้อวัยวะตายตามไปด้วยในที่สุด
ออกซิเจน มีอยู่ 3 สถานะนั่นก็ คือ
1.ออกซิเจนสภาวะของเหลว ที่มีอุณหภูมิประมาณ -182.5 องศาเซลเซียส หรือว่าจะต่ำกว่านั้น เป็นแก๊สออกซิเจนจะเปลี่ยนสถานะจากก๊าซกลายเป็นของเหลวสีฟ้า
2.ออกซิเจนสภาวะก๊าซ ที่สภาวะปกติออกซิเจนจะอยู่ในสถานะก๊าซ
3.ออกซิเจนสภาวะของแข็ง ที่จะมีอุณหภูมิ -218.4 องศาเซลเซียส หรือว่าต่ำกว่าเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของแข็งที่มีสีฟ้าอ่อน

คุณสมบัติและองค์ประกอบของออกซิเจน
•จะมีลักษณะองค์ประกอบ : O
•เลขอะตอม:8
•จุดเดือด:183.0 องศาเซลเซียส-90.15 เคลวิน
•จุดหลอมเหลว :-218.4 องศาเซลเซียส -54.750008 เคลวิน
•จำนวนนิวตรอน:8
•จำนวนโปรตอน/อิเล็กตรอน:8
•โครงสร้างผนัง:ลูกบาศก์
•สีของออกซิเจน:ไม่มี
•ความหนาแน่นอยู่ที่-293 เคลวิน : 1.429 กรัม/ซม. 3
ปริมาณของออกซิเจนที่อยู่ในกระแสเลือดนั้น จะส่งผลต่อสุขภาพของเราด้วยจะมีปริมาณ ในร่างกายแบ่งออกได้ทั้ง 3 ระดับนั่นก็ คือ
•ระดับออกซิเจนที่สูง (hyperoxia) คือแรงของออกซิเจนจะมีค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนมากกว่าปกตินั่นก็ คือระดับออกซิเจนในเลือดสูงกว่า 100 มิลลิเมตรปรอทOxygen หรือว่ามีค่าความอิ่มตัวในเลือดมากกว่าปกติ 99% อย่างที่เราเรียกว่าสภาวะ hyperoxia หรือออกซิเจนเป็นพิษ เกิดจากร่างกายได้รับออกซิเจนในจำนวนที่มาก ๆเป็นเวลานานถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ความดันอยู่ที่ 760 มิลลิเมตรปรอท ส่งผลต่อทางเดินการหายใจเกิดการระคายเคือง ไอ เจ็บหน้าอก หรือว่าเนื้อเยื่อภายในปอดเกิดการเสื่อม

•ระดับออกซิเจนปกติ แรงดันออกซิเจนดัชนีค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนอยู่ที่ 96-97 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในภาวะที่ดีที่สุดของร่างกาย ทำให้สมองทำงานได้ดีผิวพรรณดี ร่างกายแข็งแรง
•ระดับออกซิเจนต่ำ (Hypoxemia หรือ Hypoxia ) เป็นแรงดันของออกซิเจน ที่ได้รับการแบ่งตัวหรือว่าปกติระดับออกซิเจนในเลือดจะต่ำกว่า 60 มิลลิเมตรปรอท หรือมีความอิ่มตัวในเลือดที่น้อยกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ยังมีระดับออกซิเจนอาจจะต่ำกว่าและเกิดเป็นโรคเลือดจาง โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอดบวม

การป้องกันภาวะเลือดออกสิเจนต่ำบอกว่าสูงเกินไป
•ออกกำลังกาย จะหายใจเร็วและดังขึ้นทำให้ร่างกายนั้นเพิ่มออกซิเจนมากขึ้นจึงสามารถที่จะเปลี่ยนออกซิเจนเพื่อให้เซลล์นำไปใช้งานได้มากขึ้น
•สูดหายใจเข้าลึกๆ ยาวๆโดยที่ร่างกายจะได้รับออกซิเจนเข้าไปเพื่อเป็นการเพิ่มมากขึ้นและลดออกซิเจนได้ต่ำลง จากการหายใจเข้าและออก
•นวด การนวดกล้ามเนื้อเมื่อเกิดอาการเหนื่อยล้ากล้ามเนื้อจะมีการเกร็งตัว ทำให้เลือดนั้นหมุนเวียนได้ไม่ดีกล้ามเนื้อจะขาดออกซิเจนทำให้เราปวดเมื่อยนั้นเอง
•การดื่มน้ำ ให้ส่วนประกอบของโมเลกุล Oxygen และออกซิเจนกับไฮโดรเจนอย่างการดื่มน้ำมาก ๆ จะนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้วิธีหนึ่งเมื่อเรารู้สึกว่าร่างกายขาดออกซิเจน ควรดื่มน้ำก็ช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือด อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
สามารถติดตามข่าวสารสาระดี ๆ เพิ่มเติมได้ที่คลิก>>> vaillantservisi